วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ แหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่

หากวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหน หรือเบื่อทะเล เซ็งภูเขา อยากหาสถานที่ท่องเที่ยวชิลล์ ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ ก็ลองมาสัมผัสกับแหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นั่นก็คือ ภาพ "ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ" (Santorini Park Cha-Am) ที่เที่ยว ที่ช้อป ที่ชิม รูปแบบใหม่ในหัวหิน-ชะอำ ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์สำหรับทุกเพศทุกวัยได้แน่นอน เอ้า! พร้อมแล้วก็ไปลุย ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ กันเลยดีกว่า ...

ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ แหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ย่านหัวหิน–ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน Amused Shopping Experience หรือ "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศอันงดงามของ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ พร้อมสนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่สั่งตรงจากต่างประเทศ ที่นี่จะมอบสีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก ให้คุณประทับใจมิรู้ลืม

เพราะเพียง 2 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ และ 20 นาที จากหัวหิน คุณก็จะได้สัมผัสการช้อปปิ้งที่มาพร้อมความสนุกในทุกย่างก้าว โดยการรวมเอาร้านค้าชั้นนำสินค้าที่มีสไตล์เฉพาะตัว งานศิลปะ สวนสนุก และความร่มรื่นของต้นไม้เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการมาจากบรรยากาศสบาย ๆ ที่สวยงามของสถาปัตยกรรมสีฟ้าขาวบน เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ อีกทั้งต้นเฟื่องฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะ ก็ยังมีส่วนในการเพิ่มสีสันที่เข้ากันได้ดี

รวมถึงกริมมิกต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้บนเกาะซานโตรินี เช่น ทางเดินลายก้อนหินที่จะแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ ผสานเข้ากับลูกเล่นหลากหลายที่เสริมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ งานประติมากรรมที่ใช้สอยได้ เราจึงเชื่อว่าทุกมุมของ "ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ" จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการบันทึกภาพประทับใจอย่างมีความสุขในทุกบริเวณ สำหรับ ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ แบ่งเป็น 5 โซนหลัก เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว ได้แก่ โซนวิลเลจ (Village) ซึ่งได้รวบรวมร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการและความชอบได้ทุกเพศ ทุกวัย ที่ไม่เพียงมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง แฟชั่นแอ็คเซสซอรี่ส์ สินค้าไลฟ์สไตล์ อาร์ตแอนด์เดคคอร์เท่านั้น แต่ยังเปิดรับสินค้าจากผู้ประกอบการ SME ที่มีแนวความคิดอินเทรนด์ไม่ซ้ำใคร ที่สำคัญหากคุณมาเดินช้อปปิ้งในโซนนี้ จะให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินชมร้านรวงบนเกาะซานโตรินี ซึ่งทุกร้าน ทุกแบรนด์ จะออกแบบหน้าร้านให้กลมกลืนกับตัวอาคาร นอกจากนี้ ยังมีส่วนของร้านอาหารชั้นนำ เพสตรี้ช้อป และคาเฟ่ ให้ได้เพลิดเพลินในระหว่างช้อปปิ้ง และสำหรับผู้ที่รักความตื่นเต้น ก็มีเครื่องเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น G-Max Reverse Bungee แคปซูลดีดขึ้นฟ้า และ G-Max Giant Swing, Wallholla เครื่องเล่นปีนป่ายที่มีรางวัลการันตีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมถึง XD Dark Ride เครื่องเล่น7D สุดไฮเทค และ 4DX Rider โรงภาพยนตร์สุดยอดประสบการ

ตลาดน้ำขวัญเรียม แหล่งวัฒนธรรมริมคลองแสนแสบ

หากเอ่ยชื่อว่าเป็นตลาดน้ำ คงไม่มีใครคิดว่าจะมีอยู่ในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่เหลือเส้นทางสัญจรน้อยเต็มที แต่ทว่า ตลาดน้ำขวัญเรียม คือหนึ่งในตลาดน้ำแห่งใหม่ที่ผุดขึ้นเพื่อย้อนรอยวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองแสนแสบ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 เท่านั้น

โดยตลาดน้ำขวัญเรียมแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะจำลองชีวิตของชาวน้ำ เพื่อให้เป็นที่ระลึกแก่คนรุ่นหลัง ให้ได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตริมน้ำ ทั้งภาพพระที่ออกบิณฑบาตรทางเรือ การทอดผ้าป่าทางน้ำ โดยเฉพาะความเป็นมาอันยาวนานของคลองแสนแสบ ที่อยู่คู่กรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของนิยายรักอมตะเรื่อง แผลเก่า ที่มีตัวเอกคือ ขวัญ กับ เรียม โศกนาฏกรรมของความรักที่ทุกคนจดจำได้ดี

ตลาดน้ำขวัญเรียม ตั้งอยู่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และ ซอยรามคำแหง 187 หรือที่รู้จักกันดีว่า วัดบำเพ็ญเหนือ และ วัดบางเพ็งใต้ ถึงแม้ว่าสองฝั่งคลองจะเป็นถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ตลาดน้ำแห่งนี้ก็ยังคงมีความสงบในวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ทั้งการย้อนอดีตชมวิถีชีวิตริมคลองแสนแสบ เลือกชิมอาหารอร่อยจากทั่วทุกภาค เลือกซื้อสินค้า OTOP ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมแบบไทย ๆ และเรือโบราณมากมาย ที่คนรุ่นก่อนพร้อมใจกันมาแสดงให้ลูกหลานดูอย่างเต็มใจ

เกาะพยาม มนต์เสน่ห์ความสงบที่น่าหลงใหล

ใครที่กำลังเบื่อความวุ่นวาย ความจอแจของผู้คน หรือเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน การทำงาน อยากออกไปสูดความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ สัมผัสความงามของท้องทะเลสีคราม วันนี้กระปุกดอทคอมขอแนะนำ "เกาะพยาม" เกาะใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของจังหวัดระนอง เพราะที่นี่เงียบสงบ แถมเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะ แต่จะสวยน่าหลงใหลขนาดไหนนั้น อยากรู้ตามเราเข้าไปเที่ยวเกาะพยามกันดีกว่า

เกาะพยาม เกาะขนาดใหญ่รองจาก เกาะช้าง (ระนอง) มีพื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร บนเกาะมีชุมชนขนาดใหญ่อาศัยอยู่ ส่วนใหญ่ทำอาชีพสวนมะพร้าว สวนยางพารา สวนมะม่วงหิมพานต์ และประมงชายฝั่ง ชาวบ้านบนเกาะพยามยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่มีการปรุงแต่ง หรือแต้มเติมสีสันความเป็นเมืองกรุง เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวเกาะพยาม

ในส่วนของกิจกรรมที่ต้องไปลองเมื่อมาเยือนเกาะพยาม นั่นคือ การไปดำน้ำชมปะการังที่สวยงามนานาชนิด บริเวณรอบ ๆ เกาะ เพราะเกาะพยามถือเป็นแหล่งดูปะการังที่สมบูรณ์สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ สำหรับคนที่ไม่อยากไปดำดิ่งสู่โลกใต้ทะล แต่สามารถออกไปโลดแล่นได้ คือ การตกปลา ขี่จักรยานรอบเกาะ หรือไปพายเรือคายักชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน และสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเล "เผ่ามอแกน" ที่มาอาศัยอยู่เป็นบางครั้ง

เกาะพยาม

ทั้งนี้ ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวเกาะพยามในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน–มีนาคม สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การไปส่องดู นกแก๊ก หรือ นกแกง นกเงือกที่เล็กที่สุดในประเทศไทย มีลำตัวเป็นสีดำ ท้องสีขาว ปลายขนปีกแต่ละเส้นเป็นสีขาว ปากและโหนกสีงาช้าง ตัวผู้มีโหนกยาวทรงกระบอกทอดตามความยาวของปาก มีสีดำแต้มตรงส่วนหน้า ตัวเมียโหนกเล็กกว่าและมีสีดำเปรอะทั้งโหนกและปาก ซึ่งย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่รอบ ๆ เกาะในช่วงเวลานั้น

สามพันโบกเมืองอุบล ดินแดนมหัศจรรย์ริมน้ำโขง

ชื่อของ "สามพันโบก" หรือแกรนด์แคนยอนเมืองไทย เป็นที่เลืองชื่อลือนามถึงความมหัศจรรย์และความงดงาม ที่แต่ละปีจะเผยโฉมโผล่พ้นน้ำออกมาให้ได้ยลความงามเพียงแค่ช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนพฤษภาคมเท่านั้น เพราะในช่วงฤดูน้ำหลาก ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ตุลาคม สามพันโบกจะซุกซ่อนความอัศจรรย์ไว้ใต้แม่น้ำโขงอย่างมิดชิด

ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำเอาภาพ "สามพันโบก" ของ คุณ A r t F u l l Y ที่ได้ถ่ายทอดผ่านเลนส์ในมุมมองสวย ๆ มาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเราต้องไปทำความรู้จักกับสามพันโบกเมืองอุบลกันสักนิด

สามพันโบก ตั้งอยู่บริเวณบ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 120 กิโลเมตร เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก ซึ่ง "โบก" หรือ "แอ่ง" หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ลำน้ำโขง เกิดจากการที่กระแสน้ำได้พัดพาก้อนกรวด หิน ทราย และเศษไม้ กัดเซาะขัดแผ่นหินทรายให้เกิดเป็นหลุมแอ่ง มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมากมาย

สำหรับในช่วงหน้าแล้ง "สามพันโบก" จะโผล่พ้นน้ำให้เห็นคล้ายเป็นภูเขากลางลำน้ำโขง ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกน้ำเซาะมองเห็นเป็นภาพศิลปะ บางแห่งใหญ่ขนาดเป็นสระว่ายน้ำ บางแอ่งขนาดเล็ก มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไป หินบางก้อนถูกกัดกร่อนคล้ายงานแกะสลักเป็นรูปสัตว์ รูปดาว รูปมิกกี้เมาส์ หรือรูปต่าง ๆ ตามแต่เราจะจินตนาการกว่า 3,000 โบก

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

แต่งหน้าเล่นๆยามว่างกัน



วังสวนผักกาด พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ใจกลางเมือง

วังสวนผักกาด (ททท.)
          วังสวนผักกาด เป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้าน คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือ เสด็จในกรมฯ และ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ "คุณท่าน" ได้เปิดบ้านซึ่งหลายคนรู้จักในนาม "วังสวนผักกาด" ให้บุคคลภายนอกเข้าชม ในขณะที่ท่านเจ้าของยังคงใช้เป็นที่พำนักนับแต่ พ.ศ.2495 เป็นต้นมา ส่วนที่มาของชื่อ วังสวนผักกาด คือตั้งตามลักษณะของพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสวนผักกาดของชาวสวนมาก่อน
ทั้งนี้ ด้วยนิสัยและความรักในการสะสม เสด็จในกรมฯ ทรงรวบรวมศิลปะและโบราณวัตถุอันล้ำค่า ที่สืบทอดมาจาก จอมพลเรือ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ) ต้นราชสกุลบริพัตร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี นอกจากนี้ เสด็จในกรมฯ และ "คุณท่าน" ต่างร่วมกันสะสมศิลปะและโบราณวัตถุชิ้นสำคัญอื่น ๆ ของทั้งชาติไทย และของโลกไว้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเก็บรวบรวมไว้ ณ วังสวนผักกาด

              พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ อันประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ 8 หลัง เรือนหลังที่ 1 - 4 จัดเป็นหมู่เรือนไทย โดยเรือนหลังแรกมีสะพานเชื่อมไปสู่เรือนหลังที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ตามลำดับ ส่วนเรือนหลังที่ 5 - 8 ปลูกอยู่ห่างกันทางทิศตะวันตก และมีหอเขียนอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในมีภาพลายรดน้ำเรื่องพุทธประวัติ เรื่องรามเกียรติ์และเหตุการณ์ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งราชทูตฝรั่งเศสเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
          ส่วนที่บริเวณชั้น 2 ของศิลปาคารจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง แสดงโบราณวัตถุมีอายุเก่าแก่ประมาณ 4,000 ปี เช่น ภาชนะดินเผา กำไลหิน ลูกปัดแก้วซึ่งพบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

ขอขอบคุณ   http://travel.kapook.com/view24581.html


โมเมพาเพลิน : Workshop เสกผมสวยกับโดฟ

  แพรวา ร้านของฝาก


ร้านแพรวา ตั้งอยู่ที่ ซอย 20 ถนน ศรีเชียงคาน
สินค้า ผ้าห่ม ผ้าพันคอ หมอน ผ้าปูโต๊ะ หมวก ผ้าถุง อื่นๆ อีกมากมาย
ของดี มีคุณภาพ ราคาเป็นกันเอง


มนต์เสน่ห์แห่งความสุข...ไม่เคยหยุดที่ เขาใหญ่

"เขาใหญ่" ถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และนับว่าเป็นผืนป่าใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครมากที่สุด เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มากสไตล์ ทั้งทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งรวบรวมสถานที่กิน เที่ยว ช้อป ไว้อย่างสมบูรณ์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล โดยมีถนนเส้นหลักที่มุ่งหน้าขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือ "ถนนธนะรัชต์" ที่เป็นเส้นทางแห่งความสุข มีเสน่ห์ดึงดูดใจและสร้างสีสันความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ตลอดเส้นทาง และไม่ว่าคุณจะเคยมาเที่ยวที่เขาใหญ่แห่งนี้สักกี่ครั้ง เราเชื่อว่าคุณก็จะได้พบกับความแปลกใหม่ของสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอดเวลา
แล้วแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แหล่งช็อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจในสไตล์ยุโรปอีกมากมายก็เกิดขึ้นตามมาเป็นทิวแถวตลอดแนวถนนธนะรัชต์ และถนนรอบ ๆ เขาใหญ่เกือบทุกสาย คู่หูเดินทางฉบับนี้จึงอยากจะขออัพเดทมนต์เสน่ห์แห่งความสุข ณ เขาใหญ่ สถานที่ที่มีมนต์ขลังแห่งนี้



The Smoke House ร้านอาหารยุโรป และอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยสร้างเป็นปราสาททรงยุโรปโบราณออกมาได้อย่างโดดเด่นสะดุดตาเป็นสง่ากับถนนสายนี้มาก ใครที่ผ่านไปมาต่างก็อดใจไว้ไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกไว้แอ๊คอาร์ตกับเพื่อนฝูงประหนึ่งว่าได้ไปเยือนดินแดนยุโรปแห่งใดแห่งหนึ่งมาก็มิปาน อาหารที่นี่รสชาติดี แต่ขอแนะนำว่าควรสั่งมาหลาย ๆ เมนู แล้วแชร์กันทานจานโน้นคำจานนี้คำ รับรองได้อิ่มกันทั้งวงแน่นอน ราคาอาจจะดูค่อนข้างสูงแต่ก็คุ้มค่า เพราะของเค้าจานใหญ่จัดเต็มสมราคา

          และถ้ามานั่งทานตั้งแต่ 1 ทุ่ม เป็นต้นไป ท่านก็จะได้ทานข้าวเคล้าเสียงเพลงจากจาก 3 หนุ่มหล่อ บนเวทีแสดงสด ที่สามารถมองผ่านออกไปเห็นทุ่งกว้างและขุนเขาเบื้องหลัง ก็นับได้ว่าเป็นมื้อค่ำที่โรแมนติคไม่เบาเลยทีเดียว มีบริการไวน์รสเลิศและเบอเกอรี่รสละมุม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ เวลาที่เหมาะสำหรับการมาเยือนที่นี่ก็น่าจะประมาณช่วงแดดร่มลมตก จนถึงช่วงหัวค่ำ เพราะเมื่อยามพระอาทิตย์เริ่มอัสดง เราก็จะเริ่มเห็นแสงไฟประดับที่ทางร้านจัดแต่งไว้เพื่อเสริมความสง่างามให้กับเดอะสโมกเฮ้าส์แห่งนี้มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืนจริง ๆ เดอะสโมกเฮ้าส์ เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.30 น. โทร. 0-4436-5222

เขาใหญ่ สปีดคาร์ท ที่นี่เขามีบริการรถโกคาร์ททั้งของเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งรถโกคาร์ทแบบ 2 ที่นั่ง รถเอทีวีของเด็กก็มีให้เช่าขับ พร้อมไฟส่องสนามยามค่ำคืน เพื่อความปลอดภัย ในราคาชั่วโมงละ 300 บาท  และสำหรับสาว ๆ ที่ไปด้วย แต่ไม่อยากแข่งรถกับหนุ่ม ๆ เค้า ก็มีที่นั่งชมทีวีถ่ายทอดสดพร้อมทานอาหารรอหนุ่ม ๆ ไปพลาง ๆ เพราะเค้ามีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการพร้อมสรรพทุกสิ่ง แถมยังรับจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ สัมมนา ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย เปิดทุกวัน 9.00 – 21.00 น. โทร. 08-6660-8060

อนถึงอุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ กม.17 ฝั่งซ้าย จะเห็นอาคารสไตล์อิตาเลี่ยนโบราณสีน้ำตาลอมส้มเรียงราย เป็นที่รู้จักกันในนาม Palio Khao Yai สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งของเขาใหญ่ ในคอนเซ็ปต์ถนนคนเดิน กับสินค้าอันหลากหลายที่มีมากมายกว่า 120 ร้านค้า รวมทั้งอาหาร เครื่องดื่ม สปา เสริมสวย ตลอดจนที่พักในแบบบูติคโฮเทลที่นับว่าอยู่ใกล้สะดวกสบายต่อการขึ้นเที่ยวชมอุทยานฯ เขาใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ที่นี่นอกจากคุณจะสนุกกับการช็อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีมุมสวย ๆ มากมายให้ถ่ายภาพเล่นเป็นที่ระลึก เสมือนหนึ่งว่าคุณไปเยือนเมืองอิตาลีมาอวดเพื่อนฝูงให้ดูกันอย่างตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว ปาลิโอ เขาใหญ่ เปิดทุกวัน  8.00 – 20.00 น. โทร. 0-4436-5899

ขอขอบคุณ  http://travel.kapook.com/view37778.html

ตลาดท่านา ตลาดเก่าไซส์มินิ

"ตลาดท่านา" ตลาดโบราณริมน้ำที่ยังคงกลิ่นไอของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และบ้านเรือนไม้เก่าแบบโบราณ เคียงคู่กับผู้คนที่หมุนเวียนจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ภายในควบคู่กับวิถีการทำมาค้าขายในชีวิตประจำวันของคนในชุมชนร่วมกันได้อย่างเหมาะสมลงตัว

          จุดแรกที่สะดุดตามากที่สุดก็คือ ร้านขายของเล่นโบราณ บ้านไม้สองชั้นอายุกว่า 100 ปี สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า เดินเข้าไปในร้านก็จะเจอของเล่นทั้งเก่าและใหม่ผสมกันอยู่ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ขนาดโต ๆ แล้ว ยังแอบซื้อของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ เคยได้เล่น
          แถมยังได้พูดคุยกับเจ้าของบ้าน เพราะคุณป้าเรียกให้ฉันเข้าไปในตัวบ้าน ชี้ขึ้นไปบริเวณคานไม้ด้านบนของบ้าน แล้วบอกว่านี่เป็นการสร้างบ้านแบบโบราณ คานไม้ของที่นี่สร้างไม่เหมือนใคร และมันยังแข็งแรงอยู่แบบนี้มารุ่นสู่รุ่น คุณป้ายังคงเชิญชวนให้เข้าไปดูของเล่นหลากหลายในบ้านหลังนี้อย่างมีไมตรีจิต คุณป้าบอกว่าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ให้เข้ามาดูได้ นี่แหละน้ำใจคนไทย รอยยิ้มของคนไทย ที่ไปแห่งหนใดในเมืองไทย ฉันเชื่อว่ายังไงก็ต้องพบเจอ

ตลาดท่านา เป็นแหล่งร้านอาหารริมน้ำและย่านจำหน่ายของกินอร่อย ๆ มากมาย อาทิ เป็ดพะโล้ ขนมปังเย็น ปลากริมไข่เต่า บัวลอย รวมถึงผลไม้มากมายโดยเฉพาะ ส้มโอนครชัยศรี นอกจากนี้ ยังมี "ศาลอาม่า" นอกจากจะเป็นศาลเจ้าเพื่อให้ประชาชนมากราบไหว้แล้ว ยังเปิดสอนภาษาจีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ขอขอบคุณ   http://travel.kapook.com/view38121.html

จิบกาแฟรสเยี่ยม ท่ามกลางทะเลหมอก ณ ดอยช้าง



ทิวเขาซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นทะเลหมอก สาดแสงสีทองส่องสว่าง เป็นภาพที่หาชมได้ ณ ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย พร้อม ๆ กับไปลิ้มลองจิบกาแฟอราบิก้ารสชาติดี เคล้าทัศนียภาพที่สบายตาสบายใจ นั่นแน่! เริ่มอยากไปเห็นภาพ ดอยช้าง ด้วยตาตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นก็อย่ารอช้า ตามเราเข้าไปสัมผัสกับอีกความงดงามหนึ่งของเมืองไทยกัน...
ส่วนชื่อ บ้านดอยช้าง นั้น ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทางทิศเหนือ (ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง และบน ดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส
อีกทั้งบริเวณ ดอยช้าง ยังมี บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณ พุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีความสำคัญคือ เป็นน้ำ 1 ใน 9 แห่ง ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่นำไปประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา และบริเวณ พุทธอุทยานดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางพุทธอุทยานสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคเหนือ เขต 2 โทรศัพท์ 053-744674-5

ขอขอบคุณ   http://travel.kapook.com/view26984.html

 

หรรษาแดนไข่มุกอันดามัน (lisa)




 ภูเก็ตนับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางวันพักผ่อนในฝันของใครหลายๆคน ด้วยเสน่ห์ความงามตระการตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและทั่วทุกมุมโลก ให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องโลกทะเลสีฟ้าใสตัดกับผืนฟ้าสีครามกันดูสักครั้ง
          เรามีโอกาสได้ไปเยือนภูเก็ตซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งนักท่องเที่ยว ในช่วงที่เหตุการณ์วุ่นวายจากน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เริ่มคลี่คลายลง คราวนี้จึงได้เวลาผ่อนคลายกันสักทีโดยมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส พาเราบินลัดฟ้าไปยังแดนไข่มุกอันดามัน และมุ่งหน้าสู่หาดกะตะ ที่ตั้งของคลับเมดภูเก็ต ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนรีสอร์ทที่ใหญ่ขึ้นและมอบความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอันหรูหรา ในสไตล์คอนเทมโพรารี่ไทยที่เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เยือนหมู่เกาะพีพีในฝัน

แม้สภาพอากาศจะไม่สดใสซะทีเดียว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการลงเรือสปีดโบ๊ตไปเที่ยวชมความงามของอ่าวพังงา มุ่งหน้าไปยังเกาะพีพีเพื่อลงสำรวจที่หมายแรกคืออ่าวมาหยาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกาะพีพีเล อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนกันมาอย่างหนาตา เพื่อยลความสวยงามของหินผาและหาดทรายสีขาวเนียนละเอียดที่ใครๆก็ต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย และตื่นตาตื่นใจกับน้ำทะเลสีฟ้าสุกใสเมื่อได้ชมวิวในส่วนหมู่เกาะรอบๆ ใกล้กับอ่าวปิเล๊ะ ซึ่งมีเกาะที่เป็นถ้ำนกนางแอ่น แหล่งของรังนกแท้  ไปฝากท้องมื้อกลางวันและเที่ยวชมตำบลอ่าวนางบนเกาะพีพีดอน จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยการพักผ่อนอิริยาบถกันแบบสบายๆยามบ่ายที่เกาะไข่นอก เกาะขนาดเล็กในเขตจังหวัดพังงา มีความสวยงามตามธรรมชาติด้วยโขดหิน หาดทรายขาว และน้ำทะเลใสแจ๋ว ลมเย็นๆช่วยให้เอนกายลงบนหาดทรายกันได้อย่างเพลิดเพลินจนเกือบลืมเวลาเลยทีเดียว
พักผ่อนอย่างบันเทิงใจแบบครบถ้วนที่คลับเมด

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

เกาะตาชัย


เกาะตาชัย เกาะบริวารแห่งใหม่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งถึงแม้จะเป็นเกาะน้องใหม่ที่แม่จะเพิ่มเปิดตัวได้ไม่นาน แต่กลับได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติสุด ๆ เพราะยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก แถมน้ำทะเลก็ใสสะอาด หาดทรายขาวละมุนนุ่มเท้าซะจนเหมือนเดินอยู่บนปุยนุ่น

          เกาะตาชัย ถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ทำให้ตอนนี้บน เกาะตาชัย ยังไม่มีบ้านพักไว้คอยบริการ แต่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้กางเต้นท์พักค้างคืนได้ และซึ่งช่วงเวลาที่เกาะตาชัยงดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้นเกาะตาชัยจะปิด 6 เดือน คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีมรสุม อีกทั้งเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู


 ขอขอบคุณ  http://travel.kapook.com/view38360.html

แวะล่อง .... ใต้  กันบ้าง

  เกาะขาม เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมาณ 45 นาที และอยู่ทิศตะวันตกของเกาะแสมสารห่างจากท่าเรือแสมสาร 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมาณ 15 นาที เกาะขามมีรูปร่างคล้ายตัว H มีพื้นที่ประมาณ 61 ไร่ อยู่ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่ง

          ความสวยงามของท้องทะเลบริเวณเกาะขาม รวมถึงธรรมชาติบนเกาะ ทำให้นักเดินทางต่างแวะเวียนไปท่องเที่ยวเกาะขามอยู่เสมอ ๆ โดยชายหาดของเกาะขามมีสองหาดใหญ่ ๆ คือหาดด้านทิศเหนือและทิศใต้ ชายหาดด้านทิศเหนือเป็นทรายค่อนข้างละเอียด เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและสันทนาการทางน้ำ ด้านทิศใต้เป็นหาดทรายหยาบมีหินกรวดและซากปะการังทับถมเต็มชายหาด

 ลึกลงไปในน้ำของเกาะขามจะพบ แนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ บริเวณที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ของปะการังอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งแนวปะการังในบริเวณนี้จะเป็นปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ในระดับความลึกของน้ำประมาณ 3 - 6 เมตร จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำท่องเที่ยว ทั้งแบบผิวน้ำและแบบน้ำลึก นอกจากนี้ ยังพบปลาทะเลที่สวยงาม ได้แก่ ปลาผีเสื้อ ปลาสลิดหิน ปลาอมไข่ ปลากะรัง และ ปลารวมฝูง เช่น ปลาหางเหลือง อีกทั้งยังพบสัตว์ทะเลอื่นๆ ได้แก่ หอยมือเสือ หอยมือแมว ดอกไม้ทะเล กับปลาอินเดียแดง กุ้งและปูชนิดต่างๆ ดาวขนนก เม่นทะเล และปลิงทะเลที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของเกาะขาม


แนะนำการท่องเที่ยวเกาะขาม

          เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายใน 1 วัน ไปเช้ากลับเย็น (09.00 – 16.00 น.) เนื่องจากไม่อนุญาตให้พักแรมค้างคืนที่เกาะ และจะหยุดให้บริการในวันอังคารและวันศุกร์

          กิจกรรมการท่องเที่ยวประกอบด้วย...

          • การชมปะการังด้วยการดำน้ำแบบผิวน้ำ

          • การชมปะการังด้วยเรือท้องกระจก

          • การเดินชมพืชพรรณไม้ และทัศนียภาพบนเกาะ

          • การพักผ่อนหรือตกปลาบนเกาะ



ขอขอบคุณ   http://travel.kapook.com/view1165.html

เที่ยว....หนาวนี้ หนาวไหน ก้ลองไป ดู...







หนาวนี้ใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ ม่อนแจ่ม หรือ ดอยม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เพราะตอนนี้ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริมไปซะแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ
 ม่อนแจ่ม ปรากฎโฉมในรูปแบบ "แคมปิ้ง รีสอร์ท" ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมชูความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย เช่น ในเต้นท์มีบริเวณส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัว น้ำร้อน ไฟฟ้า และเครื่องใช้ครบครัน ประหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรม แต่พิเศษกว่าตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ
          สำหรับเต้นท์ที่พักมี 2 ขนาด คือ เต้นท์เล็ก 800 บาทต่อคืน (2 คน) และเต้นท์ใหญ่ 1,200 บาทต่อคืน (4 คน)
หรือไปเดินเล่นรอบเขาที่มีวิวสวย ๆ ก็ได้ และบริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม

งานมอเตอโชวร์ 2012

ร้านเอกชัย


“ร้านเอกชัย” เดิมเป็นร้านขนมเล็ก ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นในตลาดทรัพย์สิน เมื่อปี 2511 จากร้าน
1 คูหาที่ผลิตขนมอยู่ไม่กี่ชนิด กลายมาเป็นร้านต้นตำรับความอร่อยของขนมสาลี่สุพรรณที่มีเอกลักษณ์
ทั้งในด้านรสชาติและความนุ่มเนียนของเนื้อขนม อันเป็นจุดเด่นของ “สาลี่เอกชัย” จนได้รับเครื่องหมาย
รับประกันคุณภาพความอร่อย “เชลล์ชวนชิม” จาก ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เมื่อปี 2523

จวบจนปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแห่งคุณภาพ ร้านเอกชัยได้ยกระดับมาตรฐานการผลิต เป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่และทันสมัย พร้อมระบบการบริหารคุณภาพสากลและมาตรฐาน GMP & HACCP สำหรับโรงงานอาหารเพื่อก้าวสู่ระดับนานาชาติ ด้วยกระบวนการผลิตที่สะอาด ถูกสุขลักษณะและเทคโนโลยี การผลิตที่ทันสมัยแล้ว ขนมสาลี่ของร้านเอกชัย มีการบรรจุที่ทันสมัยอีกด้วย ทำให้ขนมเก็บไว้นาน โดยปราศจากวัตถุกันเสีย รวมถึงอาคารศูนย์รวมของฝากทรงไทยประยุกต์ ริมถนนสายบางบัวทอง – สุพรรณบุรี ที่เป็นแหล่ง รวมสินค้าของ “เอกชัย” ทุกชนิด และของฝากจากทุกภาค ทั้งขนม, อาหาร, เสื้อผ้า, หมวก, กระเป๋า
และสินค้าหัตถกรรม ฯลฯ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ศูนย์รวมของฝากที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี”…
“ร้านเอกชัย” จ. สุพรรณบุรี
สัมผัสแรกเมื่อได้มาเยือนอาคารทรงไทยของ ร้านเอกชัย คือ บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ละลานตาไปด้วยขนมนานาชนิด ที่ขึ้นชื่อก็คือ “สาลี่เอกชัย” สาลี่รสดั้งเดิม 6 สี 6 กลิ่น เป็นขนมไทยโบราณพื้นบ้าน เจือกลิ่นหอมจากวัสดุธรรมชาติ สีนวลตา รสนุ่มละมุนลิ้น หวานพอดี เพิ่มรสชาติด้วยลูกเกดคุณภาพดี กลิ่นใบเตยเนื้อขนมสีเขียว กลิ่นนมแมวเนื้อขนมสีชมพู กลิ่นมะลิเนื้อขนมสีขาวครีม กลิ่นกาแฟเนื้อขนมสีกาแฟ กลิ่นส้มเนื้อขนมสีขาว-ส้ม กลิ่นลิ้นจี่เนื้อขนมสีขาว-ชมพูสด ... และขนมขนาดพร้อมเสิร์ฟ เพื่อความสะดวกในการรับประทาน จะรับประทานคู่กับชา หรือกาแฟ ก็เข้ากันดีเลยค่ะ

ขอขอบคุณ  http://guide.kapook.com/taste/ekachai/

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวเกาะล้าน  ต้อนรับ ซัมเมอนี้ 


เกาะล้าน

ถือเป็นหาดสวรรค์ของคนกรุงเพราะเกาะล้านอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เกาะล้านเป็นเกาะอยู่ใกล้ๆ พัทยา จากท่าเรือพัทยาใช้เวลาในการเดินทางไปยังเกาะล้านเพียงครึ่งชั่วโมง ที่เกาะล้านมีชายหาดสวยๆ หลายหาด
หาดสังวาลย์
หาดทองหลาง
หาดแสม ถือเป็นเกาะที่สวยที่สุดและน่านอนอาบแดดที่สุด
หาดเทียน
หาดนวล
หาดตาแหวน ถือเป็นหาดที่น่าเล่นบานาน่าโบทและครึกครื้น สนุกสนานและคนเยอะที่สุด
ฤดูเที่ยวเกาะล้าน
ช่วงที่หน้าเที่ยวที่สุดของเกาะล้านก็จะอยู่ในช่วง เดือนตุลาคม-เมษายน ช่วงนี้จะไม่มีมรสุมคลื่นลมในทะเลก็สงบอากาศก็ร้อนกำลังดีเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลยิ่งนัก ส่วนในช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มรสุม คลื่นลมค่อนข้างแรงหากจะไปเที่ยวก็ควรเช็คสภาพอากาศก่อนนะครับ
การเดินทางไปเกาะล้าน
วิธีเดินทางไปเที่ยวเกาะล้านง่ายๆ สามารถเดินทางมาขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัย จะมีคิวรถตู้ที่คอยให้บริการรับส่งคนไปพัทยาเพื่อต่อเรือไปยังเกาะล้านที่ท่าเรือพัทยา หรือชื่อเต็มว่าท่าเรือแหลมบาลีฮาย ตั้งอยู่ที่พัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี รถตู้จะพาท่านไปส่งถึงท่าเรือพัทยาเลย ที่คิวรถตู้จะมีรถตู้ออกตลอดทุกๆ ครึ่งชั่วโมงและมีหลายบริษัทให้ท่านได้เลือกใช้บริการ ราคาก็แตกต่างกันไป แต่ราคาก็ห่างกันไม่มาก มีตั้งแต่ 97 บาท 100 บาท 150 บาท แล้วแต่ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวว่าอยากใช้บริการคิวไหน ซึ่งการเดินทางไปยังพัทยาเพือต่อเรือไปเที่ยวเกาะล้านใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ขอขอบคุณ http://www.tourthailands.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%89
%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2/

แนะนำร้านของฝาก  ..

ร้านเจ้าสัว สุดยอดของฝากโคราช
หากพูดถึงร้านจำหน่ายของฝากไม่ว่าจะเดินไปทางเส้นทางไหนของประเทศไทย เหนือ ใต้ ออก ตก มักจะพบเห็นร้านขายของฝากในเส้นทางเสมอ ช่นหากไปเส้นสายเหนือก็พวกโมจิแถวๆนครสวรรค์ หากไปแถวทางตะวันออกก็แถวหนองมนไม่ก็ร้านแถวระยอง และหากพูดถึงเส้นทางสายอีสานแน่นอนครับ  “ ศูนย์เจ้าสัว เตียหงี่เฮียง ”  คุณค่าแห่งของฝากจากโคราช   เป็นร้านที่หมูหินภูมิใจนำเสนอและอยากแนะนำมากที่สุดนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มีโอกาสไปเที่ยวโคราชหรือใช้เส้นทางสายอีสาน       ในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลเรื่องหาซื้อของฝากระหว่างการท่องเที่ยวไปเที่ยวก็เที่ยวให้สนุกไปเลย  พอเดินทางกลับกรุงเทพฯ หรือกลับบ้าน ก็อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่  “ ศูนย์เจ้าสัว เตียหงี่เฮียง ”  คุณค่าแห่งของฝากจากโคราช  ซึ่งปีนี้บริษัทครบรอบ 50 ปีก็มีการจัดรายกการยิ่งใหญ่เพื่อสมนาคุณลูกค้าทุกท่านให้ลุ้นรับรางวัลนับ 100,000 บาท สามารถสอบถามราบละเอียดได้ที่ร้านเลยครับ
รวมทั้งผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ และ ของที่ระลึกอีกมากมายที่ได้รับการคัดสรรจาก  OTOP  อีกทั้ง ศูนย์อาหารที่ท่าน สามารถแวะรับประทานอาหารอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และสามารถใช้บริการ ห้องน้ำ สะอาดกว่า 30 ห้อง


ขอขอบคุณ http://www.moohin.com/trips/nakonratchasima/chaosua/

เพลง Price Tag cover เพราะๆน่ะ