วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555
วังสวนผักกาด พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ใจกลางเมือง
วังสวนผักกาด (ททท.)วังสวนผักกาด เป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้าน คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือ เสด็จในกรมฯ และ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ "คุณท่าน" ได้เปิดบ้านซึ่งหลายคนรู้จักในนาม "วังสวนผักกาด" ให้บุคคลภายนอกเข้าชม ในขณะที่ท่านเจ้าของยังคงใช้เป็นที่พำนักนับแต่ พ.ศ.2495 เป็นต้นมา ส่วนที่มาของชื่อ วังสวนผักกาด คือตั้งตามลักษณะของพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสวนผักกาดของชาวสวนมาก่อน
ทั้งนี้ ด้วยนิสัยและความรักในการสะสม เสด็จในกรมฯ ทรงรวบรวมศิลปะและโบราณวัตถุอันล้ำค่า ที่สืบทอดมาจาก จอมพลเรือ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ) ต้นราชสกุลบริพัตร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี นอกจากนี้ เสด็จในกรมฯ และ "คุณท่าน" ต่างร่วมกันสะสมศิลปะและโบราณวัตถุชิ้นสำคัญอื่น ๆ ของทั้งชาติไทย และของโลกไว้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเก็บรวบรวมไว้ ณ วังสวนผักกาด
พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ อันประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ 8 หลัง เรือนหลังที่ 1 - 4 จัดเป็นหมู่เรือนไทย โดยเรือนหลังแรกมีสะพานเชื่อมไปสู่เรือนหลังที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ตามลำดับ ส่วนเรือนหลังที่ 5 - 8 ปลูกอยู่ห่างกันทางทิศตะวันตก และมีหอเขียนอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในมีภาพลายรดน้ำเรื่องพุทธประวัติ เรื่องรามเกียรติ์และเหตุการณ์ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งราชทูตฝรั่งเศสเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ส่วนที่บริเวณชั้น 2 ของศิลปาคารจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง แสดงโบราณวัตถุมีอายุเก่าแก่ประมาณ 4,000 ปี เช่น ภาชนะดินเผา กำไลหิน ลูกปัดแก้วซึ่งพบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ขอขอบคุณ http://travel.kapook.com/view24581.html
มนต์เสน่ห์แห่งความสุข...ไม่เคยหยุดที่ เขาใหญ่
"เขาใหญ่" ถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และนับว่าเป็นผืนป่าใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครมากที่สุด เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มากสไตล์ ทั้งทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และเกษตรกรรม ซึ่งรวบรวมสถานที่กิน เที่ยว ช้อป ไว้อย่างสมบูรณ์ แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล โดยมีถนนเส้นหลักที่มุ่งหน้าขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือ "ถนนธนะรัชต์" ที่เป็นเส้นทางแห่งความสุข มีเสน่ห์ดึงดูดใจและสร้างสีสันความบันเทิงให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ตลอดเส้นทาง และไม่ว่าคุณจะเคยมาเที่ยวที่เขาใหญ่แห่งนี้สักกี่ครั้ง เราเชื่อว่าคุณก็จะได้พบกับความแปลกใหม่ของสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอดเวลาแล้วแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แหล่งช็อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจในสไตล์ยุโรปอีกมากมายก็เกิดขึ้นตามมาเป็นทิวแถวตลอดแนวถนนธนะรัชต์ และถนนรอบ ๆ เขาใหญ่เกือบทุกสาย คู่หูเดินทางฉบับนี้จึงอยากจะขออัพเดทมนต์เสน่ห์แห่งความสุข ณ เขาใหญ่ สถานที่ที่มีมนต์ขลังแห่งนี้
The Smoke House ร้านอาหารยุโรป และอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยสร้างเป็นปราสาททรงยุโรปโบราณออกมาได้อย่างโดดเด่นสะดุดตาเป็นสง่ากับถนนสายนี้มาก ใครที่ผ่านไปมาต่างก็อดใจไว้ไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกไว้แอ๊คอาร์ตกับเพื่อนฝูงประหนึ่งว่าได้ไปเยือนดินแดนยุโรปแห่งใดแห่งหนึ่งมาก็มิปาน อาหารที่นี่รสชาติดี แต่ขอแนะนำว่าควรสั่งมาหลาย ๆ เมนู แล้วแชร์กันทานจานโน้นคำจานนี้คำ รับรองได้อิ่มกันทั้งวงแน่นอน ราคาอาจจะดูค่อนข้างสูงแต่ก็คุ้มค่า เพราะของเค้าจานใหญ่จัดเต็มสมราคา
และถ้ามานั่งทานตั้งแต่ 1 ทุ่ม เป็นต้นไป ท่านก็จะได้ทานข้าวเคล้าเสียงเพลงจากจาก 3 หนุ่มหล่อ บนเวทีแสดงสด ที่สามารถมองผ่านออกไปเห็นทุ่งกว้างและขุนเขาเบื้องหลัง ก็นับได้ว่าเป็นมื้อค่ำที่โรแมนติคไม่เบาเลยทีเดียว มีบริการไวน์รสเลิศและเบอเกอรี่รสละมุม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ เวลาที่เหมาะสำหรับการมาเยือนที่นี่ก็น่าจะประมาณช่วงแดดร่มลมตก จนถึงช่วงหัวค่ำ เพราะเมื่อยามพระอาทิตย์เริ่มอัสดง เราก็จะเริ่มเห็นแสงไฟประดับที่ทางร้านจัดแต่งไว้เพื่อเสริมความสง่างามให้กับเดอะสโมกเฮ้าส์แห่งนี้มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืนจริง ๆ เดอะสโมกเฮ้าส์ เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.30 น. โทร. 0-4436-5222เขาใหญ่ สปีดคาร์ท ที่นี่เขามีบริการรถโกคาร์ททั้งของเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งรถโกคาร์ทแบบ 2 ที่นั่ง รถเอทีวีของเด็กก็มีให้เช่าขับ พร้อมไฟส่องสนามยามค่ำคืน เพื่อความปลอดภัย ในราคาชั่วโมงละ 300 บาท และสำหรับสาว ๆ ที่ไปด้วย แต่ไม่อยากแข่งรถกับหนุ่ม ๆ เค้า ก็มีที่นั่งชมทีวีถ่ายทอดสดพร้อมทานอาหารรอหนุ่ม ๆ ไปพลาง ๆ เพราะเค้ามีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการพร้อมสรรพทุกสิ่ง แถมยังรับจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ สัมมนา ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย เปิดทุกวัน 9.00 – 21.00 น. โทร. 08-6660-8060
อนถึงอุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ กม.17 ฝั่งซ้าย จะเห็นอาคารสไตล์อิตาเลี่ยนโบราณสีน้ำตาลอมส้มเรียงราย เป็นที่รู้จักกันในนาม Palio Khao Yai สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งของเขาใหญ่ ในคอนเซ็ปต์ถนนคนเดิน กับสินค้าอันหลากหลายที่มีมากมายกว่า 120 ร้านค้า รวมทั้งอาหาร เครื่องดื่ม สปา เสริมสวย ตลอดจนที่พักในแบบบูติคโฮเทลที่นับว่าอยู่ใกล้สะดวกสบายต่อการขึ้นเที่ยวชมอุทยานฯ เขาใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ที่นี่นอกจากคุณจะสนุกกับการช็อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีมุมสวย ๆ มากมายให้ถ่ายภาพเล่นเป็นที่ระลึก เสมือนหนึ่งว่าคุณไปเยือนเมืองอิตาลีมาอวดเพื่อนฝูงให้ดูกันอย่างตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว ปาลิโอ เขาใหญ่ เปิดทุกวัน 8.00 – 20.00 น. โทร. 0-4436-5899
ตลาดท่านา ตลาดเก่าไซส์มินิ
"ตลาดท่านา" ตลาดโบราณริมน้ำที่ยังคงกลิ่นไอของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และบ้านเรือนไม้เก่าแบบโบราณ เคียงคู่กับผู้คนที่หมุนเวียนจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ภายในควบคู่กับวิถีการทำมาค้าขายในชีวิตประจำวันของคนในชุมชนร่วมกันได้อย่างเหมาะสมลงตัวจุดแรกที่สะดุดตามากที่สุดก็คือ ร้านขายของเล่นโบราณ บ้านไม้สองชั้นอายุกว่า 100 ปี สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า เดินเข้าไปในร้านก็จะเจอของเล่นทั้งเก่าและใหม่ผสมกันอยู่ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ขนาดโต ๆ แล้ว ยังแอบซื้อของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ เคยได้เล่น
แถมยังได้พูดคุยกับเจ้าของบ้าน เพราะคุณป้าเรียกให้ฉันเข้าไปในตัวบ้าน ชี้ขึ้นไปบริเวณคานไม้ด้านบนของบ้าน แล้วบอกว่านี่เป็นการสร้างบ้านแบบโบราณ คานไม้ของที่นี่สร้างไม่เหมือนใคร และมันยังแข็งแรงอยู่แบบนี้มารุ่นสู่รุ่น คุณป้ายังคงเชิญชวนให้เข้าไปดูของเล่นหลากหลายในบ้านหลังนี้อย่างมีไมตรีจิต คุณป้าบอกว่าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ให้เข้ามาดูได้ นี่แหละน้ำใจคนไทย รอยยิ้มของคนไทย ที่ไปแห่งหนใดในเมืองไทย ฉันเชื่อว่ายังไงก็ต้องพบเจอ
ตลาดท่านา เป็นแหล่งร้านอาหารริมน้ำและย่านจำหน่ายของกินอร่อย ๆ มากมาย อาทิ เป็ดพะโล้ ขนมปังเย็น ปลากริมไข่เต่า บัวลอย รวมถึงผลไม้มากมายโดยเฉพาะ ส้มโอนครชัยศรี นอกจากนี้ ยังมี "ศาลอาม่า" นอกจากจะเป็นศาลเจ้าเพื่อให้ประชาชนมากราบไหว้แล้ว ยังเปิดสอนภาษาจีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ขอขอบคุณ http://travel.kapook.com/view38121.html
จิบกาแฟรสเยี่ยม ท่ามกลางทะเลหมอก ณ ดอยช้าง
ทิวเขาซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นทะเลหมอก สาดแสงสีทองส่องสว่าง เป็นภาพที่หาชมได้ ณ ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย พร้อม ๆ กับไปลิ้มลองจิบกาแฟอราบิก้ารสชาติดี เคล้าทัศนียภาพที่สบายตาสบายใจ นั่นแน่! เริ่มอยากไปเห็นภาพ ดอยช้าง ด้วยตาตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นก็อย่ารอช้า ตามเราเข้าไปสัมผัสกับอีกความงดงามหนึ่งของเมืองไทยกัน...
ส่วนชื่อ บ้านดอยช้าง นั้น ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทางทิศเหนือ (ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง และบน ดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส
อีกทั้งบริเวณ ดอยช้าง ยังมี บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณ พุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีความสำคัญคือ เป็นน้ำ 1 ใน 9 แห่ง ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่นำไปประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา และบริเวณ พุทธอุทยานดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางพุทธอุทยานสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคเหนือ เขต 2 โทรศัพท์ 053-744674-5
หรรษาแดนไข่มุกอันดามัน (lisa)
ภูเก็ตนับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางวันพักผ่อนในฝันของใครหลายๆคน ด้วยเสน่ห์ความงามตระการตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและทั่วทุกมุมโลก ให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องโลกทะเลสีฟ้าใสตัดกับผืนฟ้าสีครามกันดูสักครั้ง
เรามีโอกาสได้ไปเยือนภูเก็ตซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งนักท่องเที่ยว ในช่วงที่เหตุการณ์วุ่นวายจากน้ำท่วมในกรุงเทพฯ เริ่มคลี่คลายลง คราวนี้จึงได้เวลาผ่อนคลายกันสักทีโดยมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส พาเราบินลัดฟ้าไปยังแดนไข่มุกอันดามัน และมุ่งหน้าสู่หาดกะตะ ที่ตั้งของคลับเมดภูเก็ต ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนรีสอร์ทที่ใหญ่ขึ้นและมอบความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอันหรูหรา ในสไตล์คอนเทมโพรารี่ไทยที่เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เยือนหมู่เกาะพีพีในฝัน
แม้สภาพอากาศจะไม่สดใสซะทีเดียว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการลงเรือสปีดโบ๊ตไปเที่ยวชมความงามของอ่าวพังงา มุ่งหน้าไปยังเกาะพีพีเพื่อลงสำรวจที่หมายแรกคืออ่าวมาหยาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกาะพีพีเล อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนกันมาอย่างหนาตา เพื่อยลความสวยงามของหินผาและหาดทรายสีขาวเนียนละเอียดที่ใครๆก็ต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย และตื่นตาตื่นใจกับน้ำทะเลสีฟ้าสุกใสเมื่อได้ชมวิวในส่วนหมู่เกาะรอบๆ ใกล้กับอ่าวปิเล๊ะ ซึ่งมีเกาะที่เป็นถ้ำนกนางแอ่น แหล่งของรังนกแท้ ไปฝากท้องมื้อกลางวันและเที่ยวชมตำบลอ่าวนางบนเกาะพีพีดอน จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยการพักผ่อนอิริยาบถกันแบบสบายๆยามบ่ายที่เกาะไข่นอก เกาะขนาดเล็กในเขตจังหวัดพังงา มีความสวยงามตามธรรมชาติด้วยโขดหิน หาดทรายขาว และน้ำทะเลใสแจ๋ว ลมเย็นๆช่วยให้เอนกายลงบนหาดทรายกันได้อย่างเพลิดเพลินจนเกือบลืมเวลาเลยทีเดียว
พักผ่อนอย่างบันเทิงใจแบบครบถ้วนที่คลับเมด
วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555
เกาะตาชัย
เกาะตาชัย เกาะบริวารแห่งใหม่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งถึงแม้จะเป็นเกาะน้องใหม่ที่แม่จะเพิ่มเปิดตัวได้ไม่นาน แต่กลับได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติสุด ๆ เพราะยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก แถมน้ำทะเลก็ใสสะอาด หาดทรายขาวละมุนนุ่มเท้าซะจนเหมือนเดินอยู่บนปุยนุ่น
เกาะตาชัย ถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ทำให้ตอนนี้บน เกาะตาชัย ยังไม่มีบ้านพักไว้คอยบริการ แต่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้กางเต้นท์พักค้างคืนได้ และซึ่งช่วงเวลาที่เกาะตาชัยงดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้นเกาะตาชัยจะปิด 6 เดือน คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีมรสุม อีกทั้งเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
ขอขอบคุณ http://travel.kapook.com/view38360.html
แวะล่อง .... ใต้ กันบ้าง
เที่ยว....หนาวนี้ หนาวไหน ก้ลองไป ดู...
หนาวนี้ใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ ม่อนแจ่ม หรือ ดอยม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เพราะตอนนี้ ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริมไปซะแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ
ม่อนแจ่ม ปรากฎโฉมในรูปแบบ "แคมปิ้ง รีสอร์ท" ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมชูความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย เช่น ในเต้นท์มีบริเวณส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัว น้ำร้อน ไฟฟ้า และเครื่องใช้ครบครัน ประหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรม แต่พิเศษกว่าตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ
สำหรับเต้นท์ที่พักมี 2 ขนาด คือ เต้นท์เล็ก 800 บาทต่อคืน (2 คน) และเต้นท์ใหญ่ 1,200 บาทต่อคืน (4 คน)
หรือไปเดินเล่นรอบเขาที่มีวิวสวย ๆ ก็ได้ และบริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม
ร้านเอกชัย
“ร้านเอกชัย” เดิมเป็นร้านขนมเล็ก ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นในตลาดทรัพย์สิน เมื่อปี 2511 จากร้าน
1 คูหาที่ผลิตขนมอยู่ไม่กี่ชนิด กลายมาเป็นร้านต้นตำรับความอร่อยของขนมสาลี่สุพรรณที่มีเอกลักษณ์
ทั้งในด้านรสชาติและความนุ่มเนียนของเนื้อขนม อันเป็นจุดเด่นของ “สาลี่เอกชัย” จนได้รับเครื่องหมาย
รับประกันคุณภาพความอร่อย “เชลล์ชวนชิม” จาก ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เมื่อปี 2523
จวบจนปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแห่งคุณภาพ ร้านเอกชัยได้ยกระดับมาตรฐานการผลิต เป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่และทันสมัย พร้อมระบบการบริหารคุณภาพสากลและมาตรฐาน GMP & HACCP สำหรับโรงงานอาหารเพื่อก้าวสู่ระดับนานาชาติ ด้วยกระบวนการผลิตที่สะอาด ถูกสุขลักษณะและเทคโนโลยี การผลิตที่ทันสมัยแล้ว ขนมสาลี่ของร้านเอกชัย มีการบรรจุที่ทันสมัยอีกด้วย ทำให้ขนมเก็บไว้นาน โดยปราศจากวัตถุกันเสีย รวมถึงอาคารศูนย์รวมของฝากทรงไทยประยุกต์ ริมถนนสายบางบัวทอง – สุพรรณบุรี ที่เป็นแหล่ง รวมสินค้าของ “เอกชัย” ทุกชนิด และของฝากจากทุกภาค ทั้งขนม, อาหาร, เสื้อผ้า, หมวก, กระเป๋า
และสินค้าหัตถกรรม ฯลฯ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ศูนย์รวมของฝากที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี”…
“ร้านเอกชัย” จ. สุพรรณบุรี
สัมผัสแรกเมื่อได้มาเยือนอาคารทรงไทยของ ร้านเอกชัย คือ บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ละลานตาไปด้วยขนมนานาชนิด ที่ขึ้นชื่อก็คือ “สาลี่เอกชัย” สาลี่รสดั้งเดิม 6 สี 6 กลิ่น เป็นขนมไทยโบราณพื้นบ้าน เจือกลิ่นหอมจากวัสดุธรรมชาติ สีนวลตา รสนุ่มละมุนลิ้น หวานพอดี เพิ่มรสชาติด้วยลูกเกดคุณภาพดี กลิ่นใบเตยเนื้อขนมสีเขียว กลิ่นนมแมวเนื้อขนมสีชมพู กลิ่นมะลิเนื้อขนมสีขาวครีม กลิ่นกาแฟเนื้อขนมสีกาแฟ กลิ่นส้มเนื้อขนมสีขาว-ส้ม กลิ่นลิ้นจี่เนื้อขนมสีขาว-ชมพูสด ... และขนมขนาดพร้อมเสิร์ฟ เพื่อความสะดวกในการรับประทาน จะรับประทานคู่กับชา หรือกาแฟ ก็เข้ากันดีเลยค่ะ
ขอขอบคุณ http://guide.kapook.com/taste/ekachai/
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


























